Naruepat.com
  • Home
  • Lifestyle
  • Travel
    • Eat
      • Chiang Mai
  • E-Commerce
  • Social Media
  • Programming
    • Knowledge
    • 3rd Party
    • Laravel
      • Resolve
      • Packages
  • About Me

ครั้งนึงในชีวิตกับการดูคอนเสิร์ต Coldplay สุดยอดวงดนตรีระดับโลก

Naruepat Payachai/12 Apr, 17/165/0
Travel

สวัสดีครับเพื่อน พี่ น้องทุกท่านครับ บทความนี้ผมอยากมาเล่าประสบการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน กับการดูคอนเสิร์ต Coldplay – A Head Full of Dreams Tour ที่ผมบอกเลยว่า โคตรสนุก เพราะก่อนนี้ผมเฉยๆ มาก แต่ยอมมาดูเพราะแฟนผมอยากดู 555+

เริ่มจากก่อนเปิดจองตั๋ว แฟนผมบอกว่าจะจองตั๋วดูคอนเสิร์ต Coldplay นะ เราก็บอกโอเครได้ (ในใจคิดว่าก็คงคอนเสิร์ตทั่วไป เพราะผมไม่ค่อยมีวงที่แบบชอบมากๆ ซักเท่าไหร่ แต่พอไป Search Youtube ฟังเพลงแล้ว ก็ร้องอ๋อทันที) พอถึงวันเปิดจองตั๋วออนไลน์ แฟนเราก็ขอบัตรเครดิตไปจ่าย พอถามว่าเท่าไหร่ บอกว่าคนละ 5,500 บาทตั๋วยืน พอได้ยินแค่นั้น แม่เจ้า!!!! ทำไมตั๋วยืนถึงตั้ง 5,500 บาท เลยเนี่ย!!!! แต่พอถึงวันจริงดูจนจบบอกเลยว่าคุ้มมากครับ

ผังที่นั่งคอนเสิร์ต Coldplay

16.20 การเดินทางไปสนามราชมังคลาฯ

แถวรอบัสจาก Airport Link รามคำแหง ไปสนามราชมังคลาฯ

พอถึงวันที่ 7 เมษายน 60 จากตารางงานประตูจะเริ่มเปิด 17.00น. ผมเลิกงาน 4 โมง เลยนัดแฟนมาเจอกันที่ BTS พญาไท เพราะคิดว่าจะเดินทางด้วย Airport Link ไปลงสถานีรามคำแหง แล้วต่อด้วยรถรับส่งของผู้จัดงาน แต่พอไปถึงแล้วเห็นแถวที่ยาวมาก และรถยังค่อนข้างติดหนัก เลยตัดสินใจไปถาทวินมอเตอร์ไซต์ด้านหน้า เค้าบอก 2 คนคนละ 60 บาท เลยคิดว่ารับได้ กระโดดซ้อนท้ายอย่างเร็วพลัน ประมาณ 20 นาทีเราก็ถึงสนามราชมังคลาฯ แล้ว เพราะพี่วินเค้าเชี่ยวชาญทางมากๆ พาไปลัดเลาะทุกที่ ที่ไหนรถติดก็ไปอีกทาง จนไปถึงที่หมายได้อย่างเร็วพลัน

17.45 หน้าประตู จุดตรวจบัตรและของต้องห้าม

ประตูทางเข้า Coldplay Bangkok

เดินมาถึงหน้าสนามตรงประตูทางเข้า คนเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ ถือว่าไม่แน่นมากเท่าไหร่ครับ มีหลายช่องทางเข้า ซึ่งตรงนี้เค้าจะห้ามไม่ให้เอากล้องถ่ายรูป แท็บเล็ตเกิน 7″ คอมพิวเตอร์และอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งไว้ พอผ่านด่านตรวจก็มีเจ้าหน้าที่แจก ริชแบรนด์ ซึ่งมันเจ๋งมาก จากที่เดามันน่าจะมีแผงวงจรไว้รอรับสัญญาณจากตัวปล่อย เพื่อเปิดไฟและเปลี่ยนสีตามตัวควบคุม

สายริชแบรนด์ เข็มกลัด และตั๋ว Coldplay Bangkok
ขออนุญาติเซลฟี่ไว้หน่อยนะครับ

จากจุดตรวจก็เดินไปยังโซน A1 ที่ได้ซื้อตั๋วไว้ โซนนี้จะเป็นโซนหน้าเวทีนะครับ ใครมาก่อนก็ยืนติดเวทีกันเลย ซึ่งส่วนมากจะมากันไวมากๆ ตอนผมไปถึงก็เหลือแต่กลางๆ หลังๆ แล้ว แต่พอยืนไปซักพักก็เริ่มขยับเข้าไปติดเวทีเรื่อยๆ ซึ่งตอนนั้นก็ประมาณ 18.30 แล้ว สำหรับโซน A1 ผู้คนมากันไวมากๆ ครับ ต่างจากโซนนั่งซึ่งยังโล่งกันอยู่ อาจเป็นเพราะที่นั่งถูก Fix แล้วเลยไม่ต้องรีบมาจับจองกันก่อน (ถามจากเพื่อนที่จองตั๋วนั่งมานะครับ แต่เหมือนจบงานจะมีดราม่าเรื่องที่นั่งเหมือนกัน เพราะบัตรที่บางคนได้จองไว้ แต่ไม่มีเลขที่นั่ง)

บรรยากาศระหว่างรอคอนเสิร์ต

20.00 วงเปิดตัว Jess Kent

วงเปิดตัว Jess Kent

สำหรับวงนี้ไม่เคยได้ยินเลย มีนักร้องเป็นผู้หญิง 1 คน ดูน่ารักดีครับ ส่วนอีกคนมือกลองเป็น ผู้หญิงเหมือนกันครับ แต่เพลงเมื่อฟังแล้วก็สนุกดีนะครับ และในช่วงนี้ที่วงเปิดตัว Jess Kent กำลังเล่น ก็มีเม็ดฝนโปรยลงมาบ้างเล็กน้อย ซึ่งผมเองและคนรอบข้างก็คงแอบลุ้นกันอยู่ในใจว่าจะตกไหม?? และภาวนาว่าอย่าตกมากกว่านี้เลย…

21.00 เตรียมพบกับสุดยอดวงดนตรีระดับโลก Coldplayyyyy

ตั้งแต่เปิดตัวเพลงแรก จนถึงเพลงสุดท้ายเป็น 2 ชั่วโมงที่รู้สึกสุดยอดทั้งบรรยากาศ แสง สี เสียง ที่บอกเลยว่าโคตรอินและสนุกมากๆ เลยครับ ตลอดเวลาก็มีการเก็บวีดีโอและภาพไปตลอด เพลงไหนโดนก็อดใจไม่ได้ที่อยากบันทึกวีดีโอเก็บไว้ครับ แต่โซน A1 ที่ผมยืนอยู่นั้นบอกเลยว่าชาวต่างชาติเยอะมาก ส่วนมากจะมาจากแถบเซีย เพราะทุกคนก็อยากมาดูวงระดับโลกแบบ Coldplay เล่นครับ

ตั้งแต่เริ่มจนจบ สิ่งที่ผมชอบมากก็คือแสง สี เสียง เอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่ไม่ค่อยได้เจอมาก่อนเลยครับ หรืออาจเป็นเพราะผมยังไม่เคยไปคอนเสิร์ตที่ไหนหรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละครับ ผมชอบนะครับ มีจุดพีค จุดคลายแม็กซ์ จุดบิ้วอารมณ์ โอ้ยสนุกไปหมดเลยครับ ยังไงก็ลองดูวีดีโอด้านล่างที่ผมถ่ายเก็บมาตลอดทั้งงานกันได้ครับ

23.00 หมดเวลาสนุกแล้วสิ แต่อารมณ์ยังค้างอยู่เลย

และแล้วเพลงสุดท้ายก็จบลง ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว หลังจากไฟตรงเวทีดับ และไฟทั้งสนามก็เปิด ผู้คนมากมายต่างก็ทะยอยเตรียมกลับบ้าน ซึ่งเมื่อเปิดไฟแล้วผมนี่ก็ถึงกับอึ้งเลยครับ ว่าคนเยอะมาก แค่โซน A1 ที่ผมอยู่มันก็โคตรเยอะมหาศาลแล้ว งงอยู่ว่ามันยัดกันเข้ามาได้ยังไงเนี่ย และก็ต่างคนก็ต่างทะยอยกันออกประตูกันไป บางคนไม่รีบก็นั่งรอ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ จนหมด

24.00 กลับบ้านยังไงละทีนี้

เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พยายามเรียก Grab Taxi บ้าง เรียก Uber บ้าง ก็ไม่มีใครกดรับ จากสนามราชมังคลาฯ ไปสุขุมวิท 101 ที่ค่าโดยสารจาก Grab Taxi พุ่งถึง 500 บาท และ Uber ก็ไม่น้อยหน้า 600-700 บาท แต่ไม่มีใครรับเลยแม้แต่คนเดียว สุดท้ายเลยตัดสินใจให้พี่วินไปส่งที่ถนนพัฒนาการซึ่งห่างออกจากนี้ไป 3 กิโลเมตร เบล็ดเสร็จแล้วเสียไป 120 บาท (2 คน) แล้วก็เลยไปหาโบกแท็กซี่แถวนั้นกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

Comments

Naruepat Payachai
Naruepat Payachai (Set) - Senior Supervisor Software Engineer & Full stack Web/eBusiness Developer & Digital Marketer นอกจากชอบเขียนเว็ปแล้ว ผมยังชื่นชอบ Gadgets IT ต่างๆ และเวลาว่างๆ ก็ชอบออกไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนและหาอะไรใหม่ๆ ให้กับชีวิตอยู่เสมอ

Related Posts

Knowledge

เคล็ดไม่ลับ ต่ออายุโดเมน Godaddy ในราคาถูกโดยไม่ต้องใช้ค...

LifestyleTravel

เที่ยวถ่ายรูปดอก “พญาเสือโคร่ง” ที่โรงเรียนบ...

Lifestyle

สรุปเรื่องราวชีวิตของตัวเอง เก็บความทรงจำดีๆ ที่ผ่านมาตล...

Popular Posts

Social Media

ลบเพื่อนใน Facebook ง่ายๆ เร็วๆ ด้วย Chrome Extension กั...

Lifestyle

14km กับการถ่าย “พรีเวดดิ้ง แนวสตรีท” ของผมท...

Lifestyle

923 วัน กับความทรงจำดีๆ ที่ THiNKNET Co., Ltd.

Knowledge

CDN คืออะไร? CDN มีประโยชน์กับเว็บไซต์ของเรายังไง?

หมวดหมู่

  • E-Commerce (7)
  • Eat (1)
    • Chiang Mai (1)
  • Lifestyle (15)
  • Programming (13)
    • 3rd Party (1)
    • Knowledge (6)
    • Laravel (4)
      • Packages (1)
      • Resolve (1)
    • Tools (3)
  • Social Media (4)
  • Travel (6)

เรื่องล่าสุด

  • เคล็ดไม่ลับ ต่ออายุโดเมน Godaddy ในราคาถูกโดยไม่ต้องใช้คูปองส่วนลด
  • เที่ยวถ่ายรูปดอก “พญาเสือโคร่ง” ที่โรงเรียนบรรพตวิทยา ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
  • สรุปเรื่องราวชีวิตของตัวเอง เก็บความทรงจำดีๆ ที่ผ่านมาตลอดปี 2560
  • ซื้อบ้านครั้งแรกในชีวิต จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง??
  • มาใช้ GitFlow กันดีกว่า หมดปัญหากับการแตก Branch ใน Git ที่สับสนจนเกิด Conflict

Follow Us

Tags

CAMP DIY E-Commerce file manager Framework image resize image upload Introduction Laravel package PHP seo slug startup THiNKNET tools url friendly watermark web 2.0 web 3.0 will you marry me การพัฒนาเว็บไซต์ การเริ่มต้น การใช้ชีวิต ของชำร่วย ขอแฟนแต่งงาน ข้อคิด จัดการไฟล์ ตลาดในประเทศไทย ถ่ายรูป ที่พัก พนักงานออฟฟิศ พรีเวดดิ้ง ย้ายงาน ลาออก วิเคราะห์ สตรีท อัพโหลดรูป เก็บรูปภาพ เซอร์ไพรส์ เตรียมงาน เทคนิคขายของ เริ่มต้นขายของออนไลน์ แคมป์ แต่งงาน

About US

I'm Naruepat Payachai

ผมรักการเขียนโค้ดเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย พร้อมกับทำงานในสายนี้หลายปี นอกจากเป็น Web Programmer แล้ว ก็ยังชอบ E-Commerce เป็นอย่างมาก และเวลาว่างๆ ผมก็ชอบไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ เพื่อพักผ่อนและหาไอเดียร์ใหม่ๆ มาใช้กับการทำงาน

ซึ่งผมเลยอยากเก็บประสบการณ์ ความรู้ และสิ่งที่ผมสนใจมาเก็บไว้ในบล็อกนี้ อย่างน้อยในอนาคตเราก็จะได้ย้อนกลับมาดูว่า ที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง

Recent Posts

เคล็ดไม่ลับ ต่ออายุโดเมน Godaddy ในราคาถูกโดยไม่ต้...

22 Jan, 18

เที่ยวถ่ายรูปดอก “พญาเสือโคร่ง” ที่โรง...

21 Jan, 18

สรุปเรื่องราวชีวิตของตัวเอง เก็บความทรงจำดีๆ ที่ผ่...

31 Dec, 17

ซื้อบ้านครั้งแรกในชีวิต จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง...

03 Aug, 17

Instagram

Copyright © 2016 Naruepat.com.