10 สุดยอด Tools ที่ Startup ควรต้องลองใช้สำหรับทำงาน
สำหรับการทำ Startup ล้วนแล้วแต่มีอุปสรรคมากมาย บางคนก็เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น บางคนก็ติดขัดมากมายมีปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งทุกอย่างล้วนมีแต่เหตุและผลของมัน บางทีจะโทษแต่โชคชะตาตัวเองก็คงไม่ได้ เพราะถ้าใครนำเทคโนโลยีต่างๆ นำมาใช้กับการทำงานแล้ว ถ้าใช้ได้ถูกต้องย่อมมีประโยชน์ต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงานแน่นอนครับ
Tools ที่ผมอยากนำมาให้ทุกคนได้ลองนำไปใช้นี้ หลายคนก็อาจเรียกกันว่า App โดยทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย Platform ทั้ง Website, iOS, Android ที่ทำให้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายกับการทำงานมากยิ่งขึ้น อะไรที่มักจะหลงลืม ทำงานไม่เป็นระบบ ก็ควรนำมาช่วยจัดการก็จะดีกว่าครับ เพราะผมเองเป็นคนนึงที่มักจะนำ Tools พวกนี้มาใช้ เพื่อลดความซ้ำซ้อน ความไม่เป็นระบบบางอย่างกับตัวผม ซึ่งผมคิดว่ามันช่วยให้ผมได้มีเวลาทำอะไรดีๆ อย่างอื่นได้อีกมากมาย ลองมาดูกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้างที่น่านำไปใช้
Tools สำหรับพูดคุยหรือเรียกติดปากกันว่าแชทนั่นเอง (Communication)
1. Slack
Slack เป็นโปรแกรมสำหรับพูดคุยกันในทีม โดยรองรับการทำงานทั้ง Website, iOS, Android, Mac, Windows สามารถส่งข้อความ, รูป, หรือไฟล์ต่างๆ ได้ สามารถแบ่งห้องพูดคุย (Channel) เป็นทีมได้ และฟีเจอร์ที่เจ๋งคือ สามารถค้นหาข้อความที่เคยพิมพ์ไป ลิงค์ที่เคยส่งไป ไฟล์ที่เคยส่งไป ก็สามารถค้นหาดูย้อนหลังได้ทันที
จุดเด่น คือ สามารถ integrate กับระบบต่างๆ ได้ หรือเขียน API เพื่อรับ/ส่งข้อความจากระบบของเราก็ได้ มี app หลากหลายให้เลือกใช้เพื่อเชื่อมกับ app อื่นๆ ได้หลากหลาย เช่น trello, git
เว็บไซต์: http://slack.com/
ราคา: ฟรี (Standard เดือนละ $6.67)
2. Facebook Groups
Facebook Groups เป็นแอพของ Facebook เหมาะสำหรับใช้พูดคุยกันใน Group โดยเฉพาะ มีทั้งบน Website, iOS และ Android และมาพร้อมระบบ Notification เฉพาะของ Group มาให้ สามารถโพสข้อความ แชร์รูป แชร์ไฟล์ลงกรุ๊ปได้อย่างง่ายดายและทุกคนก็น่าจะเคยใช้กันได้เป็นอย่างดี
จุดเด่น คือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องสมัคร Account อะไรใหม่เพื่อใช้งาน
เว็บไซต์: http://www.facebookgroups.com
ราคา: ฟรี
3. Telegram
Telegram เป็นโปรแกรมสำหรับพูดคุยกันในทีม หรือสามารถใช้พูดคุยทั่วไปกับเพื่อนก็ได้เช่นกัน โดยรองรับทั้ง Website, iOS, Android, Mac, Window สามารถส่งข้อความ รูปภาพ ไฟล์ต่างๆ หรือสติ๊กเกอร์ก็ยังได้ (สร้างสติ๊กเกอร์ใช้เองก็ได้) และระบบมีความปลอดภัยสูง
จุดเด่น คือ ทุกอย่างฟรี และเก็บบน Cloud แบบไม่มีวันหมดอายุ ไฟล์ที่ส่งปีที่แล้ว หรือข้อความที่ส่งปีที่แล้วก็ยังหาเจอ
เว็บไซต์: https://telegram.org/
ราคา: ฟรี
Application สำหรับทำงานร่วมกัน (Collaboration)
4. Trello
Trello เป็นแอพ Task Management สไตล์ Kanban (มีบอร์ดให้ยก Task ไปใส่ได้ เช่น Todo, Doing, Done) โดยรองรับทั้งบน Website, iOS, Android, Kindle, Windows 8 และเก็บข้อมูลบน Cloud ทั้งหมด
จุดเด่น คือ ใน 1 Account สามารถแยกบอร์ดงานออกจากกันได้โดยแบ่ง Team และสมาชิกใน Team ได้ชัดเจน และระบบ Kanban ถ้าจัดระเบียบดีๆ จะมีประโยชน์มาก
เว็บไซต์: https://trello.com/
ราคา: ฟรี (Gold เพิ่มฟีเจอร์ ปีละ $45)
5. Todolist
Todoist เป็นแอพ Task Management ดีไซน์คลีน ๆ ที่รองรับทั้ง Web, iOS, Android, Mac, Windows โดยข้อมูลเก็บบน Cloud จึงสามารถ sync ผ่าน Platform ได้ทันที นอกจากนั้นยังสามารถแบ่งงานเป็นโปรเจค และแชร์ลิสต์งานไปให้คนอื่น ๆ ในทีมได้อีกด้วย
จุดเด่น คือ รองรับการใช้งานผ่าน Platform ทุกตัวที่คนใช้กัน และสามารถแชร์ลิสต์งานให้คนอื่นได้ด้วย
เว็บไซต์: https://todoist.com/
ราคา: ฟรี (Premium เพิ่มฟีเจอร์ ปีละ $29)
6. Asana
Asana เป็นแอพ Task Management ที่รองรับบน Website, iOS, Android โดยจะมีหน้าตาคล้ายกล่อง E-mail สามารถแบ่ง Task ตาม Project / ประเภทงาน สามารถ Track projects ตั้งแต่เริ่มทำจนจบได้ นอกจากนั้นยังมี Calendar View ให้เราดูภาพรวมได้ด้วยว่าอะไรส่งวันไหน
จุดเด่นของ Asana คือ Interface เข้าใจได้ง่าย ผู้ใช้ใหม่จะไม่สับสนเหมือน Kanban
เว็บไซต์: https://asana.com/
ราคา: ฟรี 15 คน (Premium 9.99$/member/month)
7. Evernote
Evernote เป็นแอพสำหรับเก็บข้อมูล จดโน้ตบันทึกต่างๆ บน Cloud รองรับการทำงานหลากหลาย Platform ทั้ง Website, iOS, Android, Mac, Windows นอกจากนั้นยังสามารถแชร์ให้กับคนอื่นๆ และพูดคุยกันผ่านทาง Work Chat ของ Evernote ได้อีกด้วย
จุดเด่น คือ สามารถใส่รูปภาพจาก URL / Clipboard ได้เลย แค่ Copy > Paste และมีแอพรองรับการวาดเขียนต่างๆ บนรูป เอาไว้แจ้ง Bug ให้กับโปรแกรมเมอร์ได้สะดวกมาก
เว็บไซต์: https://evernote.com/
ราคา: ฟรี (Plus เพิ่มฟีเจอร์ ปีละ 400 บาท)
Application สำหรับเก็บไฟล์ (File Storage)
8. Google Drive
Google Drive เป็นแอพสำหรับเก็บและแชร์ไฟล์ลง Cloud ของ Google โดยสามารถส่งไฟล์ให้เพื่อนได้ สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้งานให้กับเพื่อนคนอื่นๆ ได้ตามไฟล์หรือโฟลเดอร์ได้ หรือจะใช้แนบส่งไปกับอีเมล Gmail ก็ได้ สามารถใช้งานได้หลากหลาย Platform เช่น Website, iOS, Android, Mac, Windows และ sync ไฟล์ได้เหมือนกับ Dropbox
จุดเด่น คือ ให้พื้นที่เยอะมาก (15GB สำหรับการใช้งานแบบฟรี) และมาพร้อม Gmail, Google Apps นอกจากนั้นยังสามารถสร้างไฟล์เอกสาร Word, Excel, Slide ที่เป็นของ Google เองได้ทันที สามารถแก้ได้จากใน Website หรือ Mobile Application
เว็บไซต์: https://drive.google.com/
ราคา: ฟรี 15 GB (100 GB เดือนละ $1.99)
9. Dropbox
Dropbox เป็นแอพสำหรับแชร์ไฟล์ลง Cloud โดยให้เพื่อนร่วมทีมมาดาวน์โหลดไปได้ บันทึกไฟล์บนคอมพิวเตอร์ แล้วเข้าถึงบนโทรศัพท์ในระหว่างเดินทาง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเก็บใน Dropbox จะซิงค์โดยอัตโนมัติระหว่างอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ และมี Dropbox Paper เป็นมากกว่าเอกสาร แต่เป็นพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นซึ่งนำคนและแนวความคิดมาอยู่ในที่เดียวกัน โดยรองรับทั้งบน Website, iOS, Android, Mac, Windows โดยเฉพาะ Mac, Windows ที่สามารถ sync ไฟล์ได้ทันที สามารถแชร์ไฟล์ได้ทุกประเภท
จุดเด่น คือ รองรับทุก Platform และคนใช้เยอะมาก ทำให้แทบทุกคนมี Account Dropbox ให้เราแชร์ไฟล์ให้ได้ทันที
เว็บไซต์: https://www.dropbox.com/
ราคา: ฟรี 2 GB(Pro เดือนละ $9.99)
Application สำหรับผ่อนคลาย (Relax)
10. Hearthstone
เกมการ์ดสุดฮิตจากค่าย Blizzard ซึ่งทางทีม Sellsuki ใช้เล่นผ่อนคลาย หรือจะเอามาเล่นแข่งกันในทีมก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังมีคนแอบกระซิบบอกมาว่านักลงทุนบางคนก็เล่นเกมนี้ด้วย ทำให้สามารถใช้เกมนี้ช่วยสร้างความสัมพันธ์ได้
เว็บไซต์: http://us.battle.net/hearthstone/en
ราคา: ฟรี
สุดท้ายนี้หวังว่าเพื่อนๆ ทุกคนคงจะได้ลองใช้แอพทีแนะนำมาข้างต้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อให้งานมีระบบและง่ายมากยิ่งขึ้นนะครับ และผมเองก็เลือกหลายๆ แอพด้านบนมาใช้เช่นเดียวกัน และบอกเลยครับว่ามันเวิร์กสุดๆ ยิ่งทำงานกับเป็นทีมแล้ว ยิ่งทำให้รู้ว่าควรจะต้องใช้เลยครับ หากมีอะไรสงสัย สามารถคอมเม้นต์เพื่อสอบถามกันได้เลยนะครับ
Credit: Growthbee