7 เทคนิค คำแนะนำการลงโฆษณา Facebook สำหรับตลาด E-Commerce และอื่นๆ
สำหรับการลงโฆษณาใน Facebook นั้น ยอมรับได้เลยว่าเดี๋ยวนี้ ถ้าใครทำธุรกิจ ไม่ว่าจะขายของ โปรโมท หรืออะไรก็ตาม ก็ต้องโปรโมทโฆษณาผ่าน Facebook กันทั้งนั้น เนื่องด้วยมีผู้ใช้ในประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้ผู้ใช้เหล่านี้ อาจกลายมาเป็นลูกค้าหรือรู้จักแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ของเราได้ในวันนี้หรืออนาคต
ในพักใหญ่มานี้ทาง Facebook เอง ก็ได้มีการปรับอัลกอลิทึมต่างๆ ในหน้าฟีด เพื่อให้ เพื่อนๆ ได้เห็นโพสได้มากที่สุด และปรับลดการเห็น Facebook Pages ลง หากใครไม่มี Activity อะไรกับ Page นั้น ก็จะไม่ค่อยเห็นขึ้นฟีดตัวเองแล้ว ลองสังเกตุกันดูได้ครับ แต่หากไปกดไลท์ แชร์ หรือทำอะไรซักพัก โพสของ Page นั้นก็จะมาขึ้นหน้าฟีดเราอีกครั้ง
เนื่องด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ธุรกิจทั้งหลาย หันมาลงโฆษณากับ Facebook Ads กันเพิ่มมากขึ้น ถ้าพูดแบบง่ายๆ เลยก็คือ การทำให้โพสนั้นไปแสดงในฟีดของผู้ใช้งาน Facebook นั่นเองครับ ซึ่งการลงโฆษณา Facebook ก็สามารถจำกัดงบประมาณ (Budjet) ได้ทั้งต่อวัน หรือต่องบประมาณทั้งหมดก็ได้ ซึ่งนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะต้องรู้เทคนิคกันก่อน เพื่อให้การลงโฆษณาใน Facebook ได้ผลมาที่สุดที่เราต้องการ
1. มีการติดตามผลจากสถิติการลงโฆษณา Facebook
สำหรับสิ่งที่ผมลองวัดจากสถิติ ที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีการโต้ตอบ (Engagement) กับโฆษณาส่วนใหญ่แล้ว จะมีอยู่ 2 แบบที่เลือกลงก็คือ Send people to website และ Get video views ซึ่งจะใช้งบประมาณที่ดูคุ้มค่ากับสินค้ามาก โดย
- Send people to website: การให้ผู้ใช้เห็นโฆษณาของเรา และทำการคลิกเพื่อเข้าสู่หน้าสินค้าโดยตรงในเว็บไซต์หลัก นอกจากผู้ใช้เหล่านี้จะรู้จักเว็บไซต์แล้ว เมื่อเข้าสู่หน้าสินค้านั้น หากมีการเขียนข้อมูลที่มีความจูงใจ ก็จะทำให้ เปลี่ยนจากผู้ใช้กลายเป็นผู้ซื้อนั่นเอง
- Get video views: พักหลังๆ มานี้ ไม่ว่าจะอินเตอร์เน็ตในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ก็มีความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอดผู้ดูวีดีโอ ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทำให้หลังๆ นี้ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบจะกดดูวีดีโอ เพื่อรับชมหรือดูสินค้าต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทำให้การลงโฆษณาด้วยวีดีโอ ก็จะสามารถทำให้ผู้ใช้เกิดความสนใจ และเป็นผู้ซื้อได้อีกด้วย
2. การกำหนดเป้าหมายโฆษณา Facebook อย่างแม่นยำ
สำหรับการลงโฆษณา Facebook นั้น อีกสิ่งที่สำคัญสำหรับผม คือการกำหนดเป้าหมายประชากร (Audience) โดยเมื่อเราสร้างโฆษณา ถ้าอยากให้โฆษณาของเรามีคุณภาพมากขึ้น ขอแนะนำให้กำหนดเป้าหมายประชากรด้วยนะครับ ว่าสินค้าของเรา มีลูกค้าที่ควรจะเป็นอยู่ในภูมิภาคใด อายุเท่าไหร่ เพศอะไร โดยเทคนิคของผมส่วนใหญ่ จากสถิติที่เคยเก็บมา ผมจะมีการกำหนดจากจังหวัดใหญ่ๆ ของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯและปริมณฑล เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณา Facebook ได้และตรงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
3. ทดสอบหัวข้อและเนื้อหาที่แตกต่างกัน เพื่อผลที่ดีที่สุด
สำหรับการตั้งหัวข้อและเนื้อหาของโฆษณานั้น แนะนำว่าให้ลองสร้างโฆษณาหลายๆ อั้น และดูว่าแบบไหนผู้ใช้มีการตอบรับหรือมีการโต้ตอบ (Engagement) ที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้ต่อและพัฒนาให้ดีขึ้นได้นะครับ ยกตัวอย่างเช่น
A: น่ารัก อารมณ์ดี คุยเก่ง ขยัน ฉลาด กินจุ ขี้งอน เจ้าเล่ห์ รวย
B: เจ้าเล่ห์ กินจุ ฉลาด รวย ขี้งอน น่ารัก อารมณ์ดี คุยเก่ง ขยัน
ยกตัวอย่างการสร้างหัวข้อจาก A และ B ถ้าไม่ได้อ่านอย่างละเอียดแล้ว จะเห็นได้ว่าทุกคนจะเลือก A มากกว่า 90% เนื้อด้วยเป็นการนำเนื้อหา (Content) ที่น่าสนใจต่อผู้บริโภคมากกว่า ทั้งๆ ที่เมื่ออ่านดีๆ แล้วทั้ง A และ B เหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นหากใครจะสร้างโฆษณาแนะนำให้ลองสร้างอย่างน้อย 3 แบบ เพื่อจะได้นำมาวิเคราะห์ว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ ชอบอันไหนมากกว่ากัน
4. ติดตามผู้ใช้หลังจากที่คลิกปุ่ม call-to-action
สำหรับการลงโฆษณา Send people to website และ Get video views นั้น เมื่อเราสร้างโฆษณาขึ้นมา จะสามารถเลือกปุ่มที่จะปรากฎด้านล่างโฆษณาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถคลิกเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ หรือ url ปลายทางได้ ส่วนใหญ่ข้อความที่จะใช้กันมากๆ ก็จะมี Learn More, Book Now, Contact Us, Shop Now เป็นต้น ซึ่งจากปุ่มนี้ เมื่อผู้ใช้คลิกแล้ว แสดงว่ามีความสนใจในโฆษณา และต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม
ดังนั้น ในหน้า url นี้แนะนำว่า เราจะต้องทำให้ลูกค้าคลิกมาดูหน้านี้แล้ว เกิดความพึงพอใจมากที่สุด และเกิดเป็นผู้ซื้อหรือลูกค้าได้ จากที่ลองทำมา แนะนำว่าจะต้องมีข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ครบถ้วน สิ่งไหนที่เกิดเป็นคำถามบ่อยที่สุด จะต้องนำมาไว้ในส่วนนี้ด้วย หากเป็นสินค้าก็ต้องมี ชื่อ สี ราคา การจัดส่ง และช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม ให้ครบถ้วนครับ
5. ค้นหาแรงบันดาลใจจากคู่แข่งของเรา
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมาก โดยปกติแล้วแต่ละแบรนด์หรือธุรกิจ ย่อมมีคู่แข่ง หากคู่แข่งพึ่งเริ่มหรือยังไม่น่ากลัวมาก ก็ดีไป หากคู่แข่งไฟแรง มีความน่าจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้แบรนด์ของเรามีลูกค้าลดลงได้ ควรจะมีการหาอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้เราก้าวข้ามคู่แข่งของเราอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ คุณภาพและการบริการ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ
6. สร้างวีดีโอที่สั้นและมีเนื้อหาที่น่าสนใจ
สำหรับการลงโฆษณาในตอนนี้ สิ่งที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับผม ก็น่าจะเป็น Get video views นั้น หากเราเลือกการนำเสนอด้วยวีดีโอ ก็แนะนำว่าควรจะต้องมีการทำวีดีโอที่สั้นและน่าสนใจมากที่สุด แนะนำว่าควรจะมีความยาวอยู่ที่ 30 วินาทีหรือน้อยกว่า และจบด้วยการ Learn more หรือ Shop Now ก็ได้ครับ
7. โฟกัสพฤติกรรมของผู้ใช้งานจากสมาร์ทโฟน
นับวันมานี้ ยอด Views และการใช้งานจาก Smart Phone ยิ่งสูงขึ้นมากเรื่อยๆ ยอดการใช้งานใน Desktop ก็ลดลง หรือในปัจจุบันนี้จากสถิติที่เห็น ระหว่างการใช้งานจาก Smart Phone และ Desktop ใกล้เคียงกันอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับ Facebook นั้นยอดผู้ใช้ใน Smart Phone นั้นมีมากมายเลยทีเดียวครับ และการลงโฆษณาก็จะปรากฎใน App Facebook เช่นเดียวกัน ดังนั้นการลงโฆษณานั้น ควรจะคำนึงถึงผู้ใช้งานใน Smart Phone กันด้วย เช่น ตัวหนังสือต้องไม่เล็กเกินไป เป็นต้น
สำหรับคำแนะนำการลงโฆษณา Facebook สำหรับการทำการตลาดต่างๆ นั้น หลักๆ ก็จะประมาณนี้นะครับ หากท่านใดกำลังลองหาช่องทางการลงโฆษณาใน Facebook กันอยู่ ก็ลองนำไปปรับใช้กันดูได้นะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเริ่มศึกษา ได้รับความรู้ไม่มากก็น้อย หากมีข้อสงสัยตรงไหน สามารถคอมเม้นต์ถามที่บทความนี้ได้เลยครับ